ประวัติไม่ธรรมดาของ “พลอยชมพู” จากเน็ตไอดอลสู่ซุปตาร์มาแรง

ประวัติดาราไทย ประวัติดาราหญิง ประวัติดาราชาย นักแสดงหญิงไทย นักแสดงไทยผู้ชาย ชื่อดารา นักแสดงชื่อดัง ข้อมูล ดารา นักแสดงต่างประเทศ

ประวัติดาราหญิง

ประวัติดาราไทย ถ้าพูดถึงดาราวัยรุ่นที่มาแรงในโลกโซเชี่ยลตอนนี้ เชื่อว่าชื่อของพลอยชมพู หรือ Jannine Weigel ประวัติดาราหญิง จะต้องเป็นชื่อแรกๆที่คนนึกถึงแน่นอน เพราะถึงแม้จะมีอายุแค่15 ปี แต่ผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมายทั้งเพลงและงานแสดงและงานโฆษณา แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้เข้ามาในวงการอย่างไร และประวัติเป็นมายังไง วันนี้ Sanook! Music จึงนำประวัติของเธอมาให้ทุกคนได้รู้จักกันเต็มๆครับหลายคนอาจไม่รู้ว่า น้องพลอยชมพู หรือชื่อจริง ญานนีน ภารวี ไวเกล

ประวัติดาราชาย

จริงๆแล้วเกิดที่เยอรมัน และอยู่ที่นั่นจนอายุ 10 ขวบ ก่อนที่จะย้ายกลับมาไทย ในปี 2553 และได้เริ่มงานในวงการบันเทิงไทยผ่านการประกวดต่างๆ ประวัติดาราชาย รวมถึงการประกวดหนูน้อยนพมาศและหนูน้อยสงกรานต์ จนเริ่มเจอความชอบคือการร้องเพลงและได้ประกวดรายการร้องเพลง ซิงเกิ้ลคิดส์ จนได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และหลังจากชนะการประกวดก็ได้รับการติดต่อจากทางแกรมมี่ให้เป็นศิลปินฝึกหัดกับทางค่าย และผลงานแรกของน้องกับทางแกรมมี่ก็คือเอ็มวีเพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ ที่เล่นเป็นนางเอกมิวสิคตอนเด็กนั่นเอง และในเวอร์ชั่นพิเศษของเพลง น้องพลอยชมพูก็ได้มาร่วมร้องด้วย

นักแสดงหญิงไทย

โดยหลังจากนั้นก็ได้เริ่มทำวีดีโอการร้องเพลงในช่อง YouTube อย่าง Jannine Weigel ออกมา นักแสดงหญิงไทย และสร้างผลงานมาเรื่อยๆ จนได้รับฉายาสาวน้อยร้อยล้านวิว และก็ได้มีซิงเกิ้ลแรกกับทางค่ายแกรมมี่กับเพลง ชักดิ้นชักงอ และต่อด้วย เพลง Volg Jour hart (Follow Your Heart) ที่ประกอบซีรี่ย์ มาลี เพื่อนรักพลังพิสดาร และมีงานแสดงตามมาอย่าง ภาพยนตร์เรื่อง รุ่นพี่ และละครเรื่อง บัลลังก์เมฆ ซึ่งพลอยชมพูได้รับบทเด่นทั้งสองเรื่องเลย และพลอยชมพูก็เริ่มมีผลงานอินเตอร์กับอัลบั้มย่อยอย่าง Genesis ที่สร้างกระแสไปถึงต่างประเทศ กับเพลงอย่าง Pluto, Still your girl และ Shot gun โดยทุกผลงานก็ทำให้น้องกลายเป็นอีกดาราที่น่าจับตามองของยุคอีกคนเลย โดยล่าสุดเธอได้กลับมาพร้อมซิงเกิ้ลใหม่อย่าง “ปลิว”

นักแสดงไทยผู้ชาย

ที่ขึ้นอันดับ 1 ในหลายๆชาร์ท และทำลายสถิติยอดวิวของทุกซิงเกิ้ลที่น้องพลอยเคยทำมา เห็นได้ชัดว่าการที่พลอยชมพู นักแสดงไทยผู้ชาย มาเป็นศิลปินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอเองก็ต้องผ่านอะไรมาหลายอย่าง ทั้งการมาอยู่ในไทยหลังย้ายมาจากเยอรมัน ทำผลงานเพลงหลายๆครั้งด้วยตัวเอง แต่ความพยายามเธอก็ส่งผลให้เธอมีผลงานเป็นที่ยอมรับทุกวันนี้ และด้วยอายุแค่ 15 ปี เชื่อได้เลยว่ายังมีผลงานอีกมากที่น้องจะทำออกมาที่พวกเราต้องติดตามให้ดีญานนีนเกิดจากแม่ชาวไทยกับพ่อชาวเยอรมันฝง ในวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 ที่เมืองสไตน์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยชื่อเธอมาจากภาษาฮีบรูที่แปลว่า “พระยาห์เวห์ทรงเมตตา” เธอมีพี่ชายทั้งหมด 3 ที่เกิดใน พ.ศ. 2529, 2531 และ 2533 ตามลำดับ เธอเป็นคนสุดท้อง และเติบโตอยู่ที่ประเทศเยอรมนีจนอายุ 10 ปี

ชื่อดารา

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 ครอบครัวของเธอได้ย้ายมาอยู่เมืองไทย เธอนับถือศาสนาคริสต์ญานนีนจบการศึกษาระดับอนุบาลจากเซนท์มาติน ชื่อดารา และระดับประถมที่โรงเรียนเรเก่นโบเก่นชูเล เมืองสไตน์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี จนเธอย้ายไปที่กรุงเทพตอนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ศึกษาปริญญาตรีล่วงหน้า สัมฤทธิบัตร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ และจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นกับสถาบันทางไกลญานนีนสามารถพูดภาษาไทย, อังกฤษ และเยอรมันได้คล่อง และยังเรียนภาษาจีนกลางและภาษาเวียดนามเพิ่มเติมพลอยชมพูได้เข้าสู่วงการบันเทิงไทยโดยผ่านโมเดลลิ่ง ในปี พ.ศ. 2553 อีกทั้งมีโอกาสแสดงภาพยนตร์โฆษณาบางส่วน และประกวดหนูน้อยนพมาศและหนูน้อยสงกรานต์ เมื่ออายุได้ 11 ปี พลอยชมพูสนใจที่จะเป็นนักร้อง จึงฝึกฝนร้องเพลงด้วยตนเองอยู่ 3 เดือนอีกทั้งยังสมัครเข้าประกวดร้องเพลงในรายการ ซิงกิ้งคิดส์ โดยพลอยชมพูได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากนั้นก็ได้รับการติดต่อจากค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และได้มาร่วมแสดงมิวสิควิดิโอเพลง “ไกลแค่ไหนคือใกล้” ของวง เก็ตสึโนวา

นักแสดงชื่อดัง

และได้เข้าเป็นศิลปินฝึกหัดในแกรมมี่เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555ในปี พ.ศ. 2558 พลอยชมพูมีผลงานเพลงเป็นของตนเอง “ชักดิ้นชักงอ” ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในวงการอย่างเป็นทางการ นักแสดงชื่อดัง จากนั้นก็มีผลงานละครเรื่องแรกเช่นกัน ในละครเรื่อง บัลลังก์เมฆ รับบทเป็น วีรินทร์ ร่วมกับจุฑาวุฒิ ภัทรกำพล ในปีเดียวกัน เธอมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ รุ่นพี่ อีกด้วย^[9]ปี 2561 นั้นหลังหมดสัญญาได้ย้ายสังกัดมาอยู่ค่ายยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) ภายใต้ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค กรุ๊ป มีซิงเกิล “ปากร้าย ใจรัก” และได้ไปเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในรายการ The Mask Line Thai ในฉายา “หน้ากากปลากัด”ต่อมาในวันที่ 6 ธันวาคม 2562 พลอยชมพูได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง “Red Records” ซึ่งเป็นค่ายที่ร่วมมือกันระหว่างค่ายเพลง Universal Music Groupกับสายการบิน Air Asia โดยพลอยชมพูเป็นศิลปินคนแรกของค่ายนี้ ประวัติดาราไทย

เครดิต www.sanook

ข่าวเพิ่มเติม